ความจริงที่โฆษณาไม่(อยาก)บอก
เมื่อพูดถึงยูคาลิปตัส สิ่งที่น่าวิตกกังวลเป็นอันดับต้นๆ
ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องการใช้น้ำอย่างมากมายและความเสื่อมโทรมของผืนดิน
ซึ่งจะต้องอธิบายถึงกลไกการเจริญเติบโตของต้นยูคาลิปตัสสักเล็กน้อย
เพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพว่า..
ผลกระทบเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
ต้นไม้จำเป็นต้องใช้สารอินทรีย์และแร่ธาตุต่างๆ ที่สะสมอยู่ในดินเพื่อการเจริญเติบโต
รากของต้นไม้จะดูดซับอาหารก็ต่อเมื่อมันอยู่ในรูปของสารละลาย
น้ำจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำพาทั้งสารอินทรีย์และแร่ธาตุไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของพืช
โดยมีลำต้นเป็นตัวกลางในการลำเลียงสารอาหารจากรากขึ้นสู่เรือนยอด
ก่อนที่น้ำจะระเหยผ่านปากใบแล้วทิ้งสารอินทรีย์กับแร่ธาตุไว้ให้เป็นอาหารของต้นไม้
หากพิจารณาภาพตัดขวางของลำต้นจะเห็นว่า
โครงสร้างอย่างหยาบๆ ของมันประกอบด้วย
เปลือกไม้ซึ่งอยู่ด้านนอกสุดและเนื้อไม้ที่ซ่อนอยู่ด้านใน
โดยในส่วนของเนื้อไม้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกคือ “กระพี้” หรือเนื้อไม้ด้านนอกซึ่งอยู่ติดกับเปลือกไม้
และเป็นที่อยู่ของท่อลำเลียงน้ำ (xylem) จำนวนมาก
ส่วนที่สองคือ “แก่น” หรือเนื้อไม้ด้านในสุดซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยกระพี้
เมื่อต้นไม้เติบโต พื้นที่ของกระพี้จะเพิ่มพูนขึ้นพร้อมกับการสร้างท่อลำเลียงน้ำใหม่ๆ
ขณะที่ท่อลำเลียงน้ำด้านในซึ่งผ่านการใช้งานมานาน
ก็จะมีการสะสมของสารต่างๆ ภายในเซลล์ กระทั่งเกิดการอุดตัน
ในที่สุดเนื้อไม้ซึ่งเต็มไปด้วยท่อที่ไม่สามารถลำเลียงน้ำได้อีกต่อไป
ก็จะกลายเป็นแก่นไม้ที่มีความแข็งแรง
แนวโน้มการใช้น้ำของต้นไม้แต่ละต้นขึ้นอยู่กับพื้นที่ของกระพี้เป็นสำคัญ
การมีพื้นที่ของกระพี้มาก จึงหมายถึงการมีพื้นที่ลำเลียงน้ำขึ้นสู่เรือนยอดมากขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งในกรณีของยูคาลิปตัวนั้นยังไม่มีแก่นจนกว่าจะอายุเกิน 15 ปีขึ้นไป
บรรดายูคาลิปตัสที่ปลูกเพื่อป้อนอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษล้วนมีอายุเพียง 3-5 ปีเท่านั้น
เนื้อไม้ในลำต้นของมันจึงเป็นกระพี้ทั้งหมด
หมายความว่า…ยูคาลิปตัสเหล่านี้เต็มไปด้วยพื้นที่ลำเลียงน้ำ
และความต้องการน้ำของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเจริญเติบโต
ทั้งหมดนี้น่าจะนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า…
ในระยะเวลาเท่ากัน ยูคาลิปตัสต้องการน้ำมากกว่าพืชอื่นๆ
การดูดซับน้ำซึ่งละลายสารอินทรีย์และแร่ธาตุในปริมาณมากนี่เอง
ที่ส่งผลถึงการเจริญเติบโตแบบพรวดพราด และทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นที่โตเร็วมาก
ระบบรากของยูคาลิปตัสแผ่ขยายเร็ว
สามารถหยั่งลงไปในดินระดับลึก ทั้งยังเปี่ยมประสิทธิภาพในการดูดน้ำ
มันจึงเสาะหาแหล่งน้ำใต้ดินได้ลึกกว่าพืชชนิดอื่นๆ
ทั้งนี้ เคยมีการตรวจวัดระดับน้ำใต้ดินต่อเนื่องเป้นเวลา 48 สัปดาห์
เพื่อเปรัยบเทียบความแตกต่างระหว่างพื้นที่ในและนอกแปลงปลูกยูคาลิปตัส
ผลปรากฏว่า…ระดับน้ำใต้ดินในแปลงปลูกยูคาลิปตัสอยู่ลึกกว่านอกแปลงยูคาลิปตัสประมาณ 2 เมตร…ตลอดระยะเวลาที่ทำการเก็บข้อมูล
เป็นการศึกษาที่น่าจะยืนยันความสามารถในการเขมือบน้ำของยูคาลิปตัสได้เป็นอย่างดี
สารอาหารส่วนใหญ่ที่ต้นไม้ใช้ในการเจริญเติบโตได้มาจากดิน
ในสภาพป่าธรรมชาติ เมื่อต้นไม้ตาย การผุพังย่อยสลายจะช่วยคืนสารอาหารเหล่านั้นกลับสู่ผืนดินอีกครั้ง และหมุนเวียนเช่นนี้เป็นวัฏจักร
ซึ่งแตกต่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแปลงปลูกยูคาลิปตัสโดยสิ้นเชิง
เพราะการตัดไม้และลากออกจากแปลงปลูกเป็นการเคลื่อนย้ายแร่ธาตุที่สะสมไว้ในลำต้นออกจากพื้นที่อย่างถาวร ทำให้ต้นทุนของสารอาหารในดินลดลงอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
ป่าธรรมชาติคือระบบนิเวศที่ประกอบด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดพันธุ์
ที่ว่างเหนือพื้นดินจึงผสมผสานไปด้วยเรือนยอดหลายระดับชั้นและหลายขนาดความกว้าง
ซึ่งมีส่วนสำคัญในการชะลอความเร็วของเม็ดฝนให้ตกกระทบหน้าดินอย่างนุ่มนวล
ทั้งยังมีไม้ชั้นล่างและไม้พุ่มขึ้นปกคลุมดิน การชะล้างพังทลายของดินจึงเกิดขึ้นน้อย
ในทางตรงกันข้าม ลักษณะของเรือนยอดที่เรียว เล็ก และแคบของยูคาลิปตัสนั้น
ไม่ช่วยชะลอความเร็วของเม็ดฝนที่ตกลงมาเท่าใดนัก
เมื่อผนวกกับการปลูกเรียงเป็นแถวเป็นแนวโดยปราศจากพืชคลุมดิน
ก็ยิ่งซ้ำเติมให้น้ำฝนที่ตกลงมาไหลบ่าอย่างรวดเร็ว และชะล้างหน้าดินซึ่งมีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ให้ไหลไปพร้อมกับน้ำอย่างง่ายดาย
ทั้งนี้ อัตราการชะล้างพังทลายของหน้าดินจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการปลูก
ในกรณีที่เกิดการชะล้างหน้าดินรุนแรง น้ำจะกัดเซาะหน้าดินรอบโคนต้นยูคาลิปตัส
ทำให้โคนต้นและรากบางส่วนโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดิน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ต้นขึ้นโคน”
การเคลื่อนย้ายธาตุอาหารออกจากพื้นที่และการชะล้างหน้าดินที่รุนแรง
ต่างนำมาซึ่งความเสื่อมโทรมของดินในพื้นที่ปลูกยูคาลิปตัส
ถึงขนาดมีคำพูดที่ว่า…
“ถ้าปลูกยูคาลิปตัสแล้ว ที่ดินผืนนั้นก็จะเอาไปปลูกอะไรไม่ได้อีกเลย”
หมายเหตุ : ตัดทอนจากที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารโลกสีเขียว
ฉบับที่ 97 เดือนมีนาคม-เมษายน 2551
ที่มา:http://myfreezer.wordpress.com/2008/04/19/eucalyptus-9/
26.4.51
ยูคาลิปตัส
เขียนโดย
GMan572
ที่
16:11
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น