4.2.51

ท่องเที่ยว

http://www.vacationzone.co.th/

ญี่ปุ่น แดนในฝันของใครๆ หลายๆ คน ... ผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น ที่ฝันอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้งในชีวิตนี้
สาเหตุที่อยากไป ก็มาจากทั้งการ์ตูนในวัยเด็ก หนังขบวนการ อุลตร้าแมน มดแดง นินจา ต่อมาในวัยโตหน่อย
ก็เรื่องของแฟชั่น เพลง J-POP, J-ROCK และเรื่องของเทคโนโลยี ( ตลอดก็เรื่องของ สาวๆ น่ารักๆ
ที่เห็นตามแผงหนังสือ .. 55555 ) ... ทั้งหมดนี้ มันเลยก่อเกิดเป็นแรงใจ ให้ผมต้องไปสัมผัสที่นี่ให้ได้

ก็พอดีประจวบเหมาะกับที่การบินไทย จัดโปรโมชั่น ลดราคาตั๋ว ถึงแค่สิ้นเดือนกันยายน ในราคาประมาณ 15,000 บาท ( อาจ +/- นิดหน่อย แล้วแต่เอเยนซ์ บางรายให้ราคาผม 15,500 บาท บางรายให้แค่
14,710 บาท แน่นอน บินเหมือนกัน ได้ point เหมือนกัน ผมเลือกราย 14,710 บาท สิครับ :P )

ก็จัดการ Clear งาน ฝากงาน ลาพักร้อน ( แต่ไม่พอ เลยขอลาป่วยแถมวันนึง ) ... แล้วก็เตรียมเก็บข้าวของ
หาข้อมูล .. เพราะผมพูดภาษาเขาไม่เป็น พอจะอ่านออกเสียงได้ พอแปลได้บางคำ ก็เลยต้องเตรียมทำการบ้าน
หนักหน่อย .. คือเตรียม list รายการเลย ว่าวันนี้ จะไปที่ไหนบ้าง เดินทางไปอย่างไร มีเงื่อนไขการไปยังไง
ราคาเท่าไร ทุกๆ อย่างครับ แล้วก็รวมถึงที่พักด้วย ... ผมก็หาข้อมูลจาก JPINN.COM ครับ เป็นกลุ่ม
ของเรียวกัง และ มินซุกุต่างๆ ผมก็จัดการติดต่อจองไว้ก่อนล่วงหน้า โดยดูจากสถานที่ๆ ผมจะเที่ยวเป็นหลัก
เช่นวันที่สอง ผมจะไปฮาโกเน่ โดยต้องนั่งรถไฟจากชินจุกุ เพราะงั้นคืนแรก ผมก็ต้องหาที่พักที่อยู่ใกล้ๆ ชินจุกุ
เพื่อจะได้เดินทางไปได้สะดวกในตอนเช้า และก็ตั้งใจจะค้างคืนที่ฮาโกเน่ ก็ต้องติดต่อหาที่พักที่ฮาโกเน่ไว้ก่อน
ประมาณเนี้ยอ่ะครับ ... รวมถึงแผนที่ต่างๆด้วย แล้วผมทำเป็นเอกสารสรุปได้เกือบ 60 หน้า ( MS.Word )
แล้วก็พิมพ์ติดตัวไปด้วย

ผมไม่ได้ซื้อ JP Rail Pass ไป เพราะผมดูจากรายการเที่ยวของผมเองแล้ว แค่ 6 วัน
( จริงๆ 5 วัน เพราะวันแรกไปถึง ก็มืดแล้ว คงไม่ได้ไปไหน ) เพราะงั้น ก็คงไม่ได้ไปไหนไกลๆ คำนวนแล้ว
ไม่คุ้มกันน่ะครับ )

ถึงวันเดินทาง ก็ค่อนข้างสบายใจละครับ พร้อมเดินทางได้ ...


เครื่องบินลำนี้ละครับ ที่พาผมเดินทางไป TG676 บนเครื่อง แอร์สาวน้อย(เห็นเขาเรียกว่าน้องหมวย) ก็เอาใบเหลืองมาให้ ตามธรรมเนียมครับ ก่อนเข้าเมือง
ก็ต้องกรอก immigration form ... แต่ที่นี่ เขาใช้คำว่า EMBARKATION กับ DISEMBARKATION
ตายเลยครับ คำๆ นี้ เคยได้ยินซะที่ไหนกันล่ะ .. ลองถามน้องหมวย ( หาเรื่องคุยกับน้อง )
น้องเขาก็งงๆ บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน ( อ้าว! ) สุดท้ายก็เดาเอง ว่า ใบเล็กเข้าเมือง ส่วนใบใหญ่ น่าจะไว้ใช้ตอนขาจะออกจากเมืองมั้ง เพราะดูจากรายการแล้ว น่าจะเป็นอย่างนั้น
เอ้า ไม่เป็นไรน่ะ ผิดเดี๋ยวเค้าก็ให้กรอกใหม่ .. -__-'

พิมพ์ผิดครับ ต้องเป็นใบใหญ่เข้าเมือง ส่วนใบเล็ก ( ตามรูปข้างบนนี้ ) เป็นตอนขาออกจากญี่ปุ่นครับ

จากนั้น ก็มี Questionair เรื่องไข้หวัด หรือ อาการป่วยที่เราเคยเป็น ในช่วงก่อนที่จะมาญี่ปุ่นครับ

เมื่อถึงญี่ปุ่น ตรง ตม. พอผมเข้าไป เขาถามประโยคเดียว ว่ามาคนเดียวเหรอ
แล้วเขาก็เก็บเอกสารที่ผมยื่นให้ทั้งหมด แล้วเรียกเจ้าหน้าที่อีกคน มารับตัวผมไป .. !! .. เฮ้ย!

จากนั้น ถ้าใครเคยดูเรื่อง Terminal ที่ ทอม แฮงค์ เล่น ก็อาจจะนึกภาพออกครับ คือ เขาเชิญผมเข้าไปสัมภาษณ์ประมาณนั้นเลย ( แต่ไม่ได้เข้าไปในห้องแบบนั้น ) ... เขาก็ถามว่า มีญาติ มีเพื่อน หรือ มีคนรู้จัก
ที่ญี่ปุ่นไหม ... ผมตอบอย่างเดียวเลย ว่าไม่มี ... เขาก็ถามว่าพูดภาษาญี่ปุ่นได้ไหม ก็ตอบอีก ว่า ไม่ได้
พอเขาถามว่า แล้วพูดอังกฤษได้ไหม .. ( เจ้าหน้าที่เขาถามผมด้วยภาษาไทยครับ เธอเป็นคนญี่ปุ่น
ที่พูดภาษาไทยได้ ค่อนข้างชัดมาก ) .. ได้โอกาสโชว์ Pow แล้วครับ ... ผมใส่ใหญ่เลย แล้วก็อวด
เอกสารที่ผมเตรียมมาให้เขาดูด้วย ว่าผมทำการบ้านมาดี น่าจะอยู่ เอาตัวรอดได้ครับ สุดท้าย เขาก็อนุญาต
ให้ผมเข้าประเทศได้

เขาก็ชี้แจงให้ทราบครับ ว่าเขาเกรงว่า ผมมาคนเดียว เกรงจะเอาตัวรอดที่นี่ไม่ได้ เลยต้องถามละเอียดหน่อยน่ะเอง

ผู้คนในสนามบิน ก็ช่างวุ่นวายดีแท้ ไม่แพ้ที่ O'Hare ( Chicago ) เลย
ผมออกมามองๆ หา Limousine Bus ครับ จริงๆ มีหลายตัวเลือกให้เลือกใช้บริการ
แต่ผมคงทำการบ้านมาไม่ดี ( เลยพลาดท่า ต้องเสียตังแพง )

คือจาก Narita เข้าโตเกียว ก็มีหลายทางเลือกครับ จะไปโดย รถไฟปกติ ชินคันเซน หรือ ของ Skyliner ก็ได้ แต่ผมดันเลือกแบบว่า ขอนั่งชมวิวหน่อยเหอะ อยากเห็นบ้านเมืองเขา เลยเลือก Limousin Bus ซึ่งก็ค่อนข้างแพงครับ ( 3,000 Yen ถ้วน )

แต่รถเขาก็นั่งสบายดี ... ผมเก็บสัมภาระไว้ใต้ท้องรถ แล้วก็ขึ้นมานั่ง




รถมาส่งผมลงที่ ชิบุย่า เพราะผมหาที่พักได้ที่นี่ครับ จากจุดนี้ไปชินจุกุไม่ยาก ก็เลยเลือก

พักที่เรียวกัง ฟุกุดายะ ครับ


วันที่ผมไปถึง ฝนตกครับ แล้วก็มืดเร็วมาก แค่ 6 โมงเย็น ก็มืดตื๋อแล้ว ผมก็เลยเข้าไปตั้งหลักที่เรียวกังเลยดีกว่า
ทีแรกตั้งใจว่าจะเดินเล่นแถวๆ ชิบุย่า สักพักก่อนซะหน่อย :/

อ๊ะๆ ก่อนเข้า ตามมารยาทในการเข้าพักเรียวกัง ( ผมอ่านเตรียมตัวมาก่อนแล้ว ) เขาจะให้ถอดรองเท้าแล้วเก็บไว้ ในที่ๆ เขาเตรียมไว้ให้
แล้วให้ใส่ Slipper ที่เขาเตรียมไว้ให้ ซึ่ง Slipper นี้ แต่ละเจ้า ก็อาจจะมีสัญลักษณ์ของตน ติดไว้ด้วย
Slipper นี้ จะใส่ในทุกๆ ที่ภายในเรียวกัง ยกเว้น เวลาเข้าห้องตัวเองครับ ต้องถอดก่อน
แล้วค่อยเดินเท้าเปล่า หรือ ใส่ถุงเท้าก็แล้วแต่ .. จึงค่อยสัมผัสกับเสื่อตาตะมิ

ที่นี้ มาดูในห้องพักกันบ้าง ... ว่าเป็นอย่างไร

เป็นห้องพักในแบบญี่ปุ่น เรียบๆ ง่ายๆ ครับ พื้นเป็นเสื่อตาตะมิ และมีฟูก ให้นอน มีผ้าห่มนวมให้
พร้อมกับ ยูกาตะ ซึ่งสามารถใส่เดินไปภายในเรียวกังได้ ไม่ว่าจะใช้ใส่นอน ใส่ไปอาบน้ำ หรือ
ใส่มานั่งจิบกาแฟ ที่ห้องนั่งเล่นก็ไม่ว่ากัน



http://www.vacationzone.co.th/

ไม่มีความคิดเห็น: